adsense

วันศุกร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2558

อาหารประเภทไขมัน: Truth about the fats – Trans fats

นพ. มานิตย์ วัชร์ชัยนันท์
March 25, 2015

เราทุกคนจำเป็นต้องได้รับอาหารที่มีส่วนประกอบของไขมันบ้างเล็กน้อย
แต่หากได้รับมากเกินไปย่อมไม่ดีอย่างแน่นอน โดยเฉพาะไขมันอิ่มตัว (saturated fat)
เพราะมันสามารถเพิ่มระดับไขมัน cholesterol ซึ่งเป็นปัจจัยเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิด
โรคหัวใจ  ดังนั้น เราจึงต้องตัดปริมาณไขมันดังกล่าวลง และเลือดรับประทานอาการ
ที่มีไขมันที่เป็นประโยชน์ เช่น ไขมันไม่อิ่มตัว (unsaturated fat)

นอกจากจำกัดอาหารที่มีไขมันอิ่มตัว (saturated fat) ซึ่งพบได้ในอาหารที่ทำจากสัตว์
และที่ได้จากพืช เช่น น้ำมันมะพร้าว (coconut oil) เรายังจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงไขมัน
อีกตัวหนึ่ง  ซึ่งมีในอาหารที่เป็นขนมกรอบทั้งหลาย มีชื่อเรียกไขมันทรานซ์

ตามเป็นจริง ร่างกายของคนเราต้องการไขมันที่ได้จากอาหาร โดยเป็นอาหารหลัก
เพื่อใช้ในการดูดซึมแร่ธาตุ และไวตามินบางอย่าง,  มีส่วนในการสร้างเยื่อหุ้มเซลล์
รวมถึงเยื่อหุ้มเส้นประสาททั้งหลาย

ไขมันมีความสำคัญต่อการทำให้เลือดแข็งตัว, การทำงานของกล้ามเนื้อ เพื่อการ
เคลื่อนไหว, และการอักเสบภายในร่างกาย (inflammation)

สำหรับการควบคุมอุณหภูมิความร้อนให้แก่ร่างกาย...
ปรากฏว่า ไขมันบางชนิดจะดีกว่าไขมันชนิดอื่นๆ

ไขมันที่อยู่รอบตัวเรา  สามารถแบ่งเป็น 3 กล่ม:

ไขมันชนิดดี (Good Fats) อันได้แก่ monosaturated และ
Polyunsaturated fats
ไขมันชนิดไม่ดี (Bad fats) ได้แก่ไขมันที่ได้จากการสังเคราะห์
จากโรงงาน เช่น Trans fats
ไขมันชนิดที่อยู่ระหว่างชนิดดี กับชนิดไม่ได้ (in-between) เช่น
ไขมันอิ่มตัว (saturated fats)

โครงสร้างของไขมันทุกตัว  จะมีลักษณะเหมือนกัน  นั้นคือสายของอะตอมของคาร์บอนด์
จะจับตัวกับอะตอมของไฮโดรเจน  ซึ่งแต่ละชนิดจะมีความแตกต่างกันตรงที่รูปร่าง และ
ความยาวของสายคาร์บอนด์  กับจำนวนอะตอมของไฮโดรเจน ที่จับตัวกับอะตอมคาร์บอนด์
ทำให้ไขมันแต่ละชนิดมีมีรูปร่าง และการทำงานแตกต่างกัน

ไขมันชนิดเลว (Bad fats)
ไขมันที่ได้ชื่อว่าเป็นไขมันเลวที่สุด มีชื่อเรียก trans fat บางคนเรียกมันว่า ไขมันมฤตยู
เพราะมันสามารถนำโรคร้ายมาสู่ผู้คนได้  โดยเป็นผลผลิตอันเกิดจากกระบวนการทางเคมี
เรียก ไฮโดรจีเนซั่น (hydrogenization)  โดยทำให้ไขมัน”ไม่อิ่มตัว”  (unsaturated fat)
ให้กลายเป็นไขมัน “อิ่มตัว” (saturated fat)

น้ำมันพืชที่ถูกทำให้กลายเป็นไขมันอิ่มตัว  ถูกนำมาใช้ในวงการอาหารกันอย่างกว้างขวาง
เช่น ในการทำขมปังชนิดต่างๆ ทำให้ขนมที่ผลิตมีความคงทนต่อการเกิดออกซิเดซั่น
ทำให้ขนมอยู่ได้นาน เช่น ขนมคุกกี้ (cookies) ...จนกระทั้งถึงมันฝรั่งทอด (French fries)

เมื่อท่านรับประทานอาหารที่มีไขมันทรานซ์เข้าไป  มันจะทำให้ปริมาณของไขมัน LDL-C
ซึ่งเป็นไขมันอันตรายในกระแสเลือดสูงขึ้น และ ทำให้ไขมันที่มีคุณภาพดี- HDL-C ลดลง

ไขมันทรานซ์  ทำให้เกิดการอักเสบ (inflammation) ซึ่งมีส่วนสัมพันธ์กับการทำให้เกิด
ปัญหาทางสุขภาพได้หลายอย่าง เช่น โรคกล้ามเนื้อหัวใจ และสมองขาดเลือด, เบาหวาน,
และโรคเรื้อรังชนิดอื่นๆ, ลดการตอบสนองของเนื้อเยื่อต่างต่ออินซูลิน เป็นเหตุให้เกิด
ความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานประเภท 2

ผลการวิจัยจาก Harvard  School of Public Health และจากที่อื่นพบว่า…
ไขมันทรานซ์  ในปริมาณแค่ 2% ต่อวัน  ก็สามารถก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ ด้วย
การเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจได้ถึง 23%


NEXT>> P. 2 :Truth about fats - In-between fats

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น