March 30, 2015
จากการสัมผัสด้วยการสูดควันบุหรี่ของคนอื่น นอกจากทำให้เกิด
โรคต่างๆ แล้ว ยังสามารถทำให้เกิดการเสียชีวิตก่อนเวลาอันควรได้
จากรายงานของ Surgeon General’s Report (2014) กล่าวว่า...
นับตั้งแต่ปี 1964 เป็นต้นมา มีคนเสียชีวิตจากการสัมพันธ์กับการ
สูบบุหรี่ได้มากกว่า 20 ล้านคน (ในสหรัฐฯ) และในจำนวนดังกล่าว
มี 22. 5 ล้าน เป็นคนที่ไม่สูบ เป็นแต่เพียงสูดควันควันบุหรี่
นอกจากนั้น ยังพบว่า ในสตรีที่สูบบุหรี่ในระหว่างตั้งครรภ์ เป็น
สาเหตุทำให้เด็กเสียชีวิตถึง 100,000 ราย
ควันบุหรี่มือสอง หรือ Secondhand smoke (SHS) อาจเรียกว่า
สูดควันบุหรี่จากสภาพแวดล้อม (ETS) ก็ได้
การสูดควันบุหรี่มือสอง เป็นการสูดควันบุหรี่จากสองรูปแบบด้วยกัน
นั้นคือ
Sidestream smoke: ควันจากก้นบุหรี่, หรือ ซิการ์
Mainstream smoke: เป็นควันจากคนสูบบุหรี่พ่นออกทางลมหายใจ
เราอาจคิดว่า ควันบุหรี่ทั้งสองรูปแบบเหมือนกัน แต่ตามเป็นจริงมีความแตก
ต่างกัน โดยเราจะพบว่า ควันบุหรี่ที่ได้จาก sidestream…จะมีความเข็มข้น
สำหรับทำให้เกิดมะเร็ง (carcinogens) และนอกจากจะมีพิษมากกว่าแล้ว
มันยังมีอนุภาคเล็กกว่าควันที่ได้จาก Mainstream smoke
เนื่องจากอนุภาคที่เล็กจากควันที่ได้จาก Sidestream มีขนาดเล็ก จึงทำให้
มันสามารถแทรกตัวเข้าสู่ปอด และเซลล์ได้ง่ายกว่า
เมื่อคนไม่สูบบุหรี่ไปสัมผัสกับควันบุหรี่ โดยไม่ตั้งใจ หรือจำยอมต้องสูด
ควันบุหรี่ และเขาจะสูดเอาสาร nicotine และสารพิษ (toxic chemicals)
เช่นเดียวกับคนสูบบุหรี่โดยตรง ยิ่งเราสูบควันดังกล่าวมากเท่าใด
โอกาสที่จะได้รับสารที่เป็นพิษเข้าสู่ร่างกายได้มากเท่านั้น
ปัญหาที่เกิดจากการสูดควันบุหรี่:
จากการสูดควันบุหรี่มือสอง ถูกพิจารณาว่า เป็น สารก่อมะเร็งในคน
(human carcinogen) โดย US Environmental Protection Agency
(EPA),The US National Toxicology Program และ The
International Agency for Research on Cancer (IARC)
ควันบุหรี่ เป็นส่วนผสมของแก๊ส และอนุนุภาคหลายชนิด โดยมีสาร
เคมีมากกว่า 7,000 ชนิด โดยมีมากกว่า 250 ชนิดเป็นสารเคมีที่มี
อันตราย และอย่างน้อย 69 ชนิด สามารถทำให้เกิดมะเร็งได้
ควันบุหรี่ที่คนเราสูดเข้าไป มีส่วนสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งปอด
นอกจากนั้น มันยังมีส่วนสัมพันธ์กับมะเร็งต่อมน้ำเหลือง,มะเร็งเม็ดเลือด,
มะเร็งสมองในเด็ก, และมะเร็งกล่องเสียง, มะเร็งช่องคอ, ช่องจมูก,
สมอง, กระเพาะปัสสาวะ, ทวารหนัก, กระเพาะอาหาร และเต้านม
IARC ได้รายงานปี 2009 เอาไว้ว่า พ่อแม่ที่สูบบุหรี่ก่อนตั้งครรภ์
และในระหว่างตั้งครรภ์ มีแนวโน้มที่จะทำให้เด็กเกิดเป็นมะเร็งของตับ
ชนิด Hepatoblastoma โดยเชื่อว่า มะเร็งชนิดนี้ได้ก่อกำเนิดในขณะ
อยู่ในครรภ์ของมารดา
การสูดควันบุหรี่ในรูปแบบ “ควันบุหรี่มือสอง” สามารถทำให้
เกิดมะเร็งเต้านม (Secondhand smoke and breast cancer):
ผลจากการศึกษา พบว่า ควันบุหรี่ทั้งจากชนิด sidestream และจาก
Mainstream...ต่างมีสารเคมีที่มีความเข็มข้นสูง ซึ่งสามารถก่อให้เกิด
มะเร็งในหนูทดลอง และยังพบในเนื้อเยื่อของนม และน้ำนม
ผลจากการศึกษาพบว่า การสูดควันบุหรี่มีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง
ในเต้านม ปรากฏว่า ในคนที่สูบบุหรี่ไม่สามารถพบความเสี่ยงต่อการ
เกิดมะเร็งในเต้านมได้อย่างชัดเจน ซึ่งแตกต่างจากคนที่สูดควันบุหรี่
มือสอง โดยเขาอธิบายว่า ที่เป็นเช่นนั้น อาจเป็นเพราะว่า ผลของควัน
บุหรี่ที่มีความเสี่ยงที่ทำให้เกิดมะเร็งเต้านม มีความแตกต่างกันระหว่าง
ควันบุหรี่ของคนสูบ กับคนที่ไม่ได้สูบ
ผลโดยสรุปจาก The California Environmental Protection Agency
ในปี 2005 สรุปเอาไว้ว่า การสูดควันบุหรี่ เป็นสาเหตุทำให้เกิดมะเร็ง
ของเต้านม แต่ The Surgeon General กลับมีความเห็นว่า...
ในขณะนี้ การสูดควันบุหรี่ อาจทำให้เกิดมะเร็งเต้านมได้ แต่หลักฐาน
ที่ได้ยังไม่เพียงพอ แต่มีเหตุผลพียงพอให้พวกเราทุกคนหลีกเลี่ยง
จากการสูดควันบุหรี่...
อ้างอิง:
www. Health.harvard.edu